การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) กลไกสำคัญเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

หากจะซื้อคอนโดฯ สักห้อง สิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ อีกหนึ่งอย่างคือ Environmental Impact Assessment หรือ EIA ที่มักจะเห็นตามสื่อโฆษณา หรือป้ายขายของแต่ละโครงนั้น ๆ ว่า ‘EIA APPROVED’ วันนี้ CP LAND จะมาพาทำความเข้าใจ EIA กับโครงการที่อยู่อาศัยว่ามีบทบาท และความสำคัญอย่างไร

การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) คือกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้การพัฒนาโครงการมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยวิเคราะห์ผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพมนุษย์ ระบบนิเวศ และความสมดุลของธรรมชาติ มีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา เพื่อป้องกันความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของผู้คนในระยะยาว

เหตุใดจึงต้องมี EIA?
การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ เช่น การสร้างโรงงานอุตสาหกรรม การขุดเหมืองแร่ การสร้างเขื่อน หรือโครงการอสังหาริมทรัพย์ หากไม่มีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA อาจทำให้เกิดผลเสียร้ายแรง เช่น การปนเปื้อนของแหล่งน้ำ การทำลายพื้นที่ป่าไม้ หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ การทำ EIA จึงเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมก่อนที่จะเกิดขึ้นนั้นได้


ประเภทของโครงการที่ต้องทำ EIA
หลายคนอาจคุ้นเคยกับการทำ EIA ในโครงการบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม หรืออสังหาริมทรัพย์ แต่ในความเป็นจริงยังมีอีกหลายประเภทโครงการที่ต้องผ่านกระบวนการนี้ ได้แก่

  1. อุตสาหกรรมและพลังงาน
    • เหมืองแร่
    • อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
    • อุตสาหกรรมเหล็กหรือเหล็กกล้า
    • โรงไฟฟ้าพลังความร้อน
  2. โครงสร้างพื้นฐานและขนส่ง
    • ถนนและทางพิเศษ
    • ระบบขนส่งมวลชนที่ใช้ราง
    • ท่าเทียบเรือ และระบบขนส่งทางอากาศ
  3. โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และชุมชน
    • การจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย
    • โรงแรมหรือสถานที่พักตากอากาศ
    • โรงพยาบาลและสถานพยาบาล
  4. การจัดการทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม
    • การถมที่ดินในทะเล
    • การผันน้ำข้ามลุ่มน้ำ
    • การก่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำ

 

EIA ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านใดบ้าง?
การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมจะพิจารณาหลายด้าน รวมทั้งทรัพยากรทางธรรมชาติและผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ ดังนี้

  1. ทรัพยากรกายภาพ การศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในด้านของดิน น้ำ อากาศ เสียง ซึ่งเป็นการศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการต่อสภาพแวดล้อมทางกายภาพ เช่น การทำลายแหล่งน้ำหรือการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ที่อาจเกิดขึ้นจากการขุดเจาะเหมือง
  2. ทรัพยากรชีวภาพ การศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงในระบบนิเวศน์ ซึ่งอาจรวมถึงการทำลายที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ หรือผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลที่มีปะการังและสัตว์น้ำที่สำคัญ
  3. คุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ การศึกษาถึงการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต เช่น การใช้ที่ดินในการเกษตรกรรม หรือการใช้แหล่งน้ำในอุตสาหกรรมต่างๆ
  4. คุณค่าต่อคุณภาพชีวิต การศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพของมนุษย์ ชุมชน และการดำรงชีวิต เช่น ผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ การเสื่อมสภาพของคุณภาพน้ำ และผลกระทบต่อสังคมจากการทำลายพื้นที่สีเขียวที่ใช้ในการพักผ่อนหย่อนใจ

ความสำคัญของ EIA และผลกระทบจากโครงการที่ไม่ผ่านการประเมิน
การประเมิน EIA เป็นขั้นตอนสำคัญในการขออนุญาตเริ่มโครงการพัฒนา เพราะช่วยให้มั่นใจว่าโครงการนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือประชาชนในพื้นที่ หากโครงการใดมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบ การประเมินนี้จะช่วยให้สามารถปรับปรุงและหาแนวทางลดผลกระทบก่อนที่จะเริ่มดำเนินการได้

หากโครงการใดไม่ผ่านการประเมิน EIA จะไม่สามารถดำเนินการต่อได้ และหากโครงการได้เริ่มไปแล้วแต่มีการคัดค้านจากประชาชนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โครงการต้องหยุดชะงักทันที เจ้าของโครงการต้องกลับไปแก้ไข ปรับปรุง และทำรายงานใหม่จนกว่าจะผ่านการอนุมัติ 

ขั้นตอนการจัดทำรายงาน EIA

  1. การตรวจสอบการจัดทำรายงาน EIA  เจ้าของโครงการต้องพิจารณาว่าผลกระทบจากโครงการนั้นๆ จำเป็นต้องมีการประเมินหรือไม่
  2. การจ้างที่ปรึกษาที่มีคุณสมบัติ เจ้าของโครงการจะต้องเลือกที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญในการทำรายงาน EIA
  3. การส่งรายงาน ส่งรายงานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น กองนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อการพิจารณา
  4. การปรับปรุงรายงาน หากรายงานต้องการการปรับแก้ไข คำแนะนำจากคณะกรรมการจะถูกนำมาปรับปรุงภายใน 30 วัน
  5. การพิจารณาผล คณะกรรมการจะพิจารณาผลและอนุมัติรายงานในที่สุด
  6. หากมีข้อเสนอแนะต้องแก้ไขรายงานและส่งใหม่ (ใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน)

EIA ในการพัฒนาโครงการของบริษัท CP LAND
บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยการทำรายงาน EIA ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งเป็นการแสดงถึงความตั้งใจในการพัฒนาโครงการที่ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย แต่ยังคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบด้วย โดยโครงการล่าสุดของบริษัทที่ได้รับการอนุมัติ EIA คือคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองขอนแก่น ได้แก่ โครงการSOū& Khon Kaen (โซ-แอนด์ ขอนแก่น)” และRI-NÉ Khon Kaen (รี-เน่ ขอนแก่น) ซึ่งได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเริ่มต้นการก่อสร้างในเร็วๆ นี้ 

ทั้งสองโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูงย่านกังสดาล ใจกลางเมืองขอนแก่น โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น มหาวิทยาลัยชั้นนำ ศูนย์การค้า โรงพยาบาล และระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมต่อสะดวกสบาย ทำให้โครงการนี้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยคุณภาพสูงในพื้นที่ที่มีการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

การได้รับการอนุมัติ EIA เป็นการยืนยันว่าโครงการเหล่านี้ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยมีการคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกทำเลไปจนถึงการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ CP LAND ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัย แต่ยังให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตในระยะยาว

 

การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์ การทำ EIA ไม่เพียงช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยให้โครงการต่างๆ สามารถดำเนินการได้อย่างยั่งยืน โดยไม่ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อชุมชนหรือระบบนิเวศน์รอบข้าง การดำเนินการที่มีความรับผิดชอบเช่นนี้เป็นสิ่งที่บริษัทต่างๆ อย่างที่ CP LAND ให้ความสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการที่พัฒนานั้นไม่เพียงแต่สร้างคุณค่าให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกด้าน

ขอบคุณข้อมูลจาก…
https://www.pttgrouprayong.com 

#CPLAND #ซีพีแลนด์ #CPLANDคุณภาพทุกชีวิต #คุณภาพเพื่อทุกชีวิต #สุขจริงทุกจินตนาการ #AccessibleCommunitiesforLife #คอนโดใหม่ใจกลางขอนแก่น #คอนโดขอนแก่น #คอนโดย่านกังสดาล #SOū& #RI-NÉ #โซแอนด์ #รีเน่ #EIAapproved #EIA

แชร์บทความนี้

Add Your Heading Text Here