‘นครพนม’ จังหวัดแห่งความสโลว์ไลฟ์ริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งศรัทธาและมิตรภาพอันงดงามทางประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งความสวยงามของทัศนียภาพ จิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม และบรรยากาศอันเงียบสงบ ที่ต้องมาตะลอน ชม แชะ ชิม และชิลไปพร้อม ๆ กัน
เริ่มตะลอนกันที่ ‘วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร’ วัดพระอารามหลวง ชั้นเอก เป็นที่ตั้งของ ‘พระธาตุพนม’ เจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสก่อด้วยอิฐ ล้อมด้วยรอบองค์พระธาตุ 4 ชั้น ประดิษฐาน ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง เป็นพระธาตุที่เก่าแก่ที่สุดในภาคอีสาน ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวอีสานและชาวลาว คนส่วนใหญ่มาสักการะเพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีวิตและทำให้เป็นที่รักของผู้คน นอกจากนี้ พระธาตุพนมยังเป็นพระธาตุประจำปีของคนที่เกิดปีวอก และวันอาทิตย์
สถานที่ต่อมา ‘อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์’ ใช้เวลาเดินทางจากวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ประมาณ 50 นาที อนุสรณ์สถานฯ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านนาจอก ‘ประธานโฮจิมินห์’ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ‘ลุงโฮ’ อดีตประธานาธิบดีของเวียดนามเคยอาศัยอยู่เมื่อประมาณ 90 ปีที่แล้ว เพื่อหาแนวร่วมกลับไปกอบกู้เอกราชให้กับประเทศเวียดนาม อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญของจังหวัดนครพนมที่ไม่ควรพลาด
ซึ่งภายในอนุสรณ์สถาน ยังมีชุดประจำชาติเวียดนาม ‘ชุดอ๋าวหย่าย’ ให้เลือกซื้อ หรือบริการเช่าไว้สำหรับสายถ่ายรูป อีกทั้งยังมีสินค้าเวียดนาม อาทิ หมวก กาแฟ วางจำหน่ายเป็นของที่ระลึกด้วย
หลังจากเสริมสิริมงคลและเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์กันแล้ว เราก็แวะไปเปลี่ยนบรรยากาศที่ร้าน ‘Jungle Space Village’ที่ห่างจากอนุสรณ์สถานฯ เพียงแค่ 8 นาทีเท่านั้น เอาใจสายคาเฟ่ฮอปเปอร์ นั่งจิบกาแฟ จิบชาท่ามกลางหญ้าสีเขียว มีฟ้า มีน้ำ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายอารมณ์ เดินเล่นบนสะพานที่ทอดยาวกลางคาเฟ่ หรือถ้าอยากถ่ายรูปเท่ ๆ ก็มีมุมถ่ายรูปให้เลือกหลายมุม ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่มก็อร่อยถูกปาก มีเมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาด คือ พิซซ่าแป้งบางกรอบ สามารถเลือกสั่งหน้าตามที่ชอบได้เลย รับรองอร่อยทุกหน้า
เมื่อแวะพักเสร็จก็ออกเดินทางต่ออีก 12 นาที ไปยัง ‘หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม’ หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า ‘หอสมุดแห่งชาตินครพนม’ อาคารสีเหลือง 3 ชั้น สไตล์โคโลเนียล (สถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างไทยและฝรั่งเศส) พอก้าวเข้าสู่หอสมุดฯ เราได้พบกับโลกของความรู้และความงดงาม เดิมเคยเป็นศาลากลางจังหวัด ตอนนี้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นแหล่งเรียนรู้ ซึ่งได้รวบรวมมรดกและวัฒนธรรมทางปัญญาของชาติที่อยู่ในรูปของหนังสือ สิ่งพิมพ์ จารึก คัมภีร์ใบลาน โสตทัศนวัสดุ ฯลฯ
มองจากด้านในของอาคารออกไปเห็นอนุสาวรีย์พระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่หน้าทางเข้า เราสามารถชมวิวเมืองรอบ ๆ ได้ เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ถ่ายรูปสวยและอุดมไปด้วยคลังความรู้แน่น ๆ ถ้าใครชอบสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศิลปะวิทยาการใช้เวลาอยู่ที่นี่ทั้งวันได้เลย
พอฟ้าเริ่มมืด เราก็ไปต่อกันที่ ‘ถนนคนเดินนครพนม (Nakhon Phanom Walking Street)’ ใช้เวลาประมาณ 3 นาที จากหอสมุดฯ เรามาสัมผัสกับชีวิตค่ำคืนของชาวท้องถิ่น เดินชิลที่ถนนคนเดิน เพลิดเพลินกับร้านค้า ร้านอาหาร ชิมอาหารท้องถิ่นที่ริมทางที่เปิดให้บริการ ในบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นเอกลักษณ์ พบกับรสชาติที่อร่อยของอาหารต่าง ๆ เช่น ข้าวซอย ก๋วยเตี๋ยว และขนมหวานที่สดใหม่
บริเวณจุดตัดของถนนคนเดินยังมี ‘หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์’ ที่ส่องแสงสว่างยามค่ำคืน เป็นแลนด์มาร์คเชิงประวัติศาสตร์แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย-เวียดนาม ในสมัยที่ชาวเวียดนามลี้ภัยสงครามมาอาศัยในจังหวัดนครพนม นอกจากหอนาฬิกาฯ จะมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และทางใจแก่ชาวนครพนม หอนาฬิกาฯ ยังมีความคลาสสิกด้วยดีไซน์สวยสีเหลืองอ่อน ถ่ายรูปได้ทั้งกลางวันและกลางคืน รับประกันเลยว่าการเดินท่องเที่ยวและทานอาหารท้องถิ่นในถนนคนเดินตอนกลางคืนจะทำให้ทุกคนได้พบประสบการณ์ที่หลากหลาย และติดใจแน่นอน
และสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหมุดหมายสุดท้ายของทริปนี้ คือ ‘ลานพญาศรีสัตตนาคราช’ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัด แหล่งรวมความศรัทธาของนครพนม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ห่างจากถนนคนเดินเพียงแค่ 3 นาที เป็นที่ตั้งของ ‘องค์พญาศรีสัตตนาคราช’ ประติมากรรมองค์พญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน ทั้งคนไทยและคนลาวเชื่อว่าเป็น ‘กษัตริย์แห่งนาคราช’ หรือ ‘นาคาธิบดี’ คอยดูแลปกปักคุ้มครองลุ่มแม่น้ำโขง พุทธศาสนา รวมถึงองค์พระธาตุพนม
หลังจากเดินทางเที่ยวเกือบทั่วจังหวัดนครพนมทั้งวัน เราก็เลือกที่จะมานอนพักที่โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม โรงแรมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ริมแม่น้ำโขง มีห้องประชุม และห้องอาหารให้บริการครบ ทั้งห้องอาหารนานาชาติ ‘นทีทอง’ และห้องอาหาร ‘The Terrace Wine Bar’ สำหรับสายดื่มด่ำน้ำหลากสี
นอกจากนี้ ห้องพักเห็นวิวแม่น้ำโขงด้วย สวยงามมาก เหมาะกับคนที่อยากชมวิวธรรมชาติในห้องแอร์ฉ่ำ ๆ มาก หรือถ้าเป็นสาย Outdoor ด้านนอกก็มีสระว่ายน้ำ ว่ายน้ำไปด้วยชมวิวไปด้วยได้เช่นกัน และยังมีถนนริมแม่น้ำ สามารถเดินเล่นหรือปั่นจักรยานได้อีกด้วย กิจกรรมหลากหลายตามความสนใจ ตอบโจทย์การท่องเที่ยวและพักผ่อนของทุกเพศทุกวัยในที่เดียว
สำหรับใครที่สนใจเดินทางตามรอยบล็อกนี้สามารถคลิกดูแผนที่ได้ตามลิงก์ข้างล่างเลย